การ ตลาด เพื่อ อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว
และกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จะหมดสัญญาในวันที่ 27 กันยายน 2563 และมีกำหนดจะต้องเปิดประมูลเพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาบริหารใหม่ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้สัมปทานมีระยะเวลาในการเตรียมตัวสำหรับเข้าบริหารพื้นที่แต่ในที่สุดแล้ว เอกสารประกวดราคาหรือทีโออาร์ สำหรับการเปิดประมูลรอบใหม่ก็เจอโรคเลื่อนมาตลอดทั้งปี โดยเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 ที่ ทอท. ได้เผยผลการศึกษาว่าการประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ จะรวม 3 พื้นที่ ได้แก่ อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 อาคารเทียบเครื่องบิน รองหลังที่ 1 และอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ในสัญญาเดียว และจะเปิดประมูลเดือนพฤษภาคม พร้อมทราบผลในเดือนมิถุนายน แต่ในที่สุด การประกาศทีโออาร์ก็ถูกเลื่อนมาเป็นกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ซึ่งในแต่ละช่วงเวลานั้นก็ดูเหมือนว่ามีเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้ามาเป็นตัวแปรที่ต้องให้ต้องเลื่อนอยู่ตลอดเวลา เช่น การเคลื่อนไหวของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมร้านค้าปลอดอากรไทย ข้อทักท้วงเรื่องการออกแบบก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 2 ฯลฯ กระทั่งล่าสุด ทอท. ได้เปิดเผยว่า จะนำทีโออาร์เข้าบอร์ดในเดือนมกราคม 2562 นี้ และคาดว่าจะได้เอกชนผู้รับสัมปทานภายในพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2562 แน่นอน ตั้งเป้าปี"62 รายได้ 3.
สะท้อนคิดพิษ 'โควิด-19' เพื่อฟื้น 'การท่องเที่ยวไทย'
ต้องดำเนินการตามแนวทางการกำกับของกระทรวงสาธารณสุข ควบคู่กับการปรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) โดยเริ่มจากการให้ข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจน ฉับไว และสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพให้มากที่สุด การสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว ตลอดจนการกำหนดแนวทางและรูปแบบการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ที่เหมาะสมและปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำได้ เพื่อให้การท่องเที่ยวของไทยกลับมาอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน ททท. กำหนดชูจุดขาย 3 ประการ ดังนี้ 1. ความปลอดภัย ระบบสาธารณสุขและการจัดการที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับ 2. ความคุ้นเคย อาหาร และวัฒนธรรมที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 3. ความสวยงาม ธรรมชาติ และผู้คนเป็นจุดขายที่ต้องคงรักษาไว้เพื่อความยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้การฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขมากที่สุด ททท. จึงกำหนดแนวคิด 5 R (Rebuild Rebrand Rebalance Rebound และ Reboot) และแนวทางการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 Lockdown Exit Rebuild, Rebrand และ Rebalance ในช่วงระยะเวลาที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้บ้าง โดยมีการกำกับและแนวปฏิบัติจากกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวกับการเดินทาง การปฏิบัติตัวในสถานที่ชุมนุมชน ซึ่ง ททท.
หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวระดับชาติ เช่น พนักงานราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) เจ้าหน้าที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท. ) หน่วยงานระดับภูมิภาค เช่น พนักงานสำนักงานการท่องเที่ยวประจำจังหวัด และหน่วยงานระดับท้องถิ่น เช่น เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล 2. งานด้านการนำเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์อาชีพ พนักงานสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน พนักงานฝ่ายการตลาดและการขายบริษัทนำเที่ยว พนักงานปฏิบัติการนำเที่ยว 3. งานด้านการโรงแรม เช่น พนักงานต้อนรับส่วนหน้า ประชาสัมพันธ์ ลูกค้าสัมพันธ์ งานบริการอาหารและเครื่องดื่ม หัวหน้าพ่อครัว (Chef) พนักงานผสมเครื่องดื่ม แม่บ้าน 4. งานด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจการบิน ธุรกิจ MICE ธุรกิจสปา
ร. ก. ฉุกเฉิน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 รวมถึงการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค. ) เป็นหน่วยงานพิเศษ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการ ต่อมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 รัฐบาลได้กำหนดให้โรคไวรัส COVID-19 เป็น 'วาระแห่งชาติ' และมอบให้สำนักงบประมาณประสานกับทุกหน่วยงาน กำหนดมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19 ภายใต้งบประมาณของแต่ละหน่วยงาน ในเวลาต่อมา ททท. ได้จัดทำ 'แผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยภายหลังวิกฤต COVID-19' เมื่อวันที่ 5-6 พฤษภาคม 2563 ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและดำเนินการดังนี้ เป้าหมายด้านการท่องเที่ยว ปี 2563 ททท. คาดหวังว่าสถานการณ์ประเทศไทย หลังจากสถานการณ์ COVID-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2563 ไม่ต่ำกว่า 1. 23 ล้านล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวน 80-100 ล้านคน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 14-16 ล้านคน แนวทางและแผนการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมกับทุกภาคส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่อยู่ในภาวะหดตัวอย่างรุนแรง ทั้งด้านอุปทานและอุปสงค์ ไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างเต็มขีดความสามารถ จนกระทั่งบางธุรกิจต้องปิดกิจการ ดังนั้น หลังจากสถานการณ์ COVID-19 การส่งเสริมและผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถดำรงอยู่และขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจได้ ททท.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) เปิดเผยว่า ททท. ได้ปรับเป้าหมายการทำงานในปี 2564 ใหม่ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 พ. ศ. 2564-2565 ด้วยการวางแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยปี 2564-2565 โดยเป้าหมายปี 2564 ให้มีรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 1. 2 ล้านล้านบาท และเป้าหมายปี 2565 มีรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 2. 5 ล้านล้านบาท สำหรับปี 2564 ประเมินว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะกลับเข้ามาในช่วงไตรมาสที่ 3 ททท. ในฐานะหน่วยงานด้านการตลาดต้องส่งสัญญาณว่าพร้อมทำตลาด ล่าสุดได้มอบหมายให้สำนักงาน ททท. 29 แห่งทั่วโลก เตรียมทำตลาดเชิงรุกโดยจะเริ่มขายแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบ Hard sell กับชาวต่างประเทศ ตั้งแต่เดือน มี. ค. -เม. ย. นี้ ซึ่งตรงกับเทศกาลอีสเตอร์ของยุโรป เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และเพื่อตลอดทั้งปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 500, 000 ล้านบาท "คาดว่านักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล (Long Haul) ทั้งยุโรปและอเมริกาจะเดินทางเข้ามาได้ก่อน ส่วนตลาดระยะใกล้ (Short Haul) อย่างอาเซียนและเอเชียตะวันออกอาจตามมาทีหลัง เพราะนโยบายของรัฐบาลจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขอความร่วมมือประชาชนถ้าไม่จำเป็น ก็ยังไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ" ผู้ว่าการ ททท.
การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมภาคบริการที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะนอกจากจะสร้างรายได้โดยมีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งของการค้าบริการรวมของประเทศแล้ว ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดธุรกิจต่อเนื่อง อาทิ โรงแรมและที่พัก ภัตตาคารร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมือง ซึ่งก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รวมทั้งสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในรูปเงินตราต่างประเทศปีละหลายแสนล้านบาท และนอกจากนั้นอุตสาห-กรรมการท่องเที่ยวยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมโดยมีสัดส่วนร้อยละ 4. 8 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยในปี 2544-2546 เท่ากับ 10. 06 ล้านคน, 10. 80 ล้านคน และ 9. 95 ล้านคน ตามลำดับ และในปี 2546 มีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวรวมประมาณ 297, 000 ล้านบาท หรือลดลงจากปี 2545 ร้อยละ 8.
แนวทางการตลาดการท่องเที่ยวโดยชุมชน สู่ ตลาดโลก
ส. 126 คน แค่เสนอนโยบายก็ไม่ผ่านแล้วครับ [1] คำพูด [ แก้ไข] รัฐบาลมีมติเห็นชอบมาตรการพยุงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประกอบด้วยมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2019 [2] ในการประชุม ครม.
คาดการณ์ขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่าในปี 2020 จะมีนักเดินทางทั่วโลกกว่า 1, 600 ล้านคน และ 1 ใน 4 หรือกว่า 416 ล้านคน มีจุดหมายปลายทางที่ภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก โดยประเทศ ไทย ถือเป็น ปลายทางสำคัญ ปัจจุบันนักท่องเที่ยว 45% ใช้สมาร์ทโฟนในการวางแผนท่องเที่ยว ส่งผลให้การวางแผนจากเดิมที่เฉลี่ย 60 วัน กลายเป็นการวางแผนใน 'วินาทีสุดท้าย' หรือ last minute booking จนกลายเป็นเทรนด์ของนักเดินทางในปัจจุบัน และรูปแบบได้เปลี่ยนจาก 'กรุ๊ปทัวร์' มาสู่การ ' เดินทางด้วยตัวเอง' (Free Independent Traveller: FIT) ซึ่งในปีนี้มีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 19. 9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2% และยังคงเป็นกลุ่มที่มาแรงในปี 2020 ดังนั้น 'เทคโนโลยี' มีบทบาทสำคัญที่จะช่วยดึงดูดและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว "เรื่องพฤติกรรมนักเดินทางเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพในไทยต้องให้ความใส่ใจ และหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีที่มีอยู่รอบตัวให้เป็นประโยชน์เพิ่มมากกว่าเดิม" ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าว สำหรับ 5 นวัตกรรมที่สำคัญและจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวใน 2020 ได้แก่ 1.
ชุมชนสร้างอัตลักษณ์ ค้นหาของดีของตนเอง ซึ่งตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง 2. กลุ่มนักท่องเที่ยวในอนาคตเน้นการท่องเที่ยวที่สามารถช่วยสร้างคุณค่าและประสบการณ์ให้แก่ตนเอง (Local Experiences) 3. การท่องเที่ยวต้องดำเนินการอย่าง "ยั่งยืน" 4. ชุมชนต้องมีเพื่อนร่วมทางในการจัดการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ โดยการสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมภายในชุมชนและภาคีเครือข่าย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1. สร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทย "วิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร" "Discover Thainess" 2. ปี 2560 เน้นการท่องเที่ยว "ท่องเที่ยววิถีไทย สไตล์ลึกซึ้ง" "Local Experiences" ชุมชนต้องเข้าใจตนเองให้ลึกซึ้งและถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆอย่างมีคุณค่า 3. นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องการความเป็นไทย "ความโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ และอัธยาศัยที่งดงาม" แก่นแท้ความเป็นไทย 4. นักท่องเที่ยวเพียงต้องการความสะอาดและปลอดภัย ควรใช้ยานพาหนะท้องถิ่นในการเดินทาง เช่น อ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ใช้เรือหัวโทงในการนำเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้การจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญต้องมีการควบคุมดูแลและจัดการอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลต่อความรู้สึกนักท่องเที่ยวที่มาเยือน 5.
- แปลเพลง Who Do You Love – The Chainsmokers ft. 5 Seconds of Summer | แปลเพลง แปลเพลงสากล แปลเพลงภาษาอังกฤษ
- บัตรเครดิตกรุงศรี แพลทินัม
- หลักการตลาดเพื่อการท่องเที่ยว - การตลาดการท่องเที่ยว
- ที่ แขวน ของ ใน ห้อง ห้องน้ํา ราคา
- หางาน เครือสหพัฒน์ Archives - เพจ หางาน
- คอ ล ลา เจน vida
- กุญแจ ล็อค กระจก บาน เลื่อน
- ตู้สูง ตู้เก็บของทรงสูง ประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น
- อะไหล่เครื่องยนต์ - Webike Thailand
- การ ตลาด เพื่อ อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว ออนไลน์
- เรียน ชง กาแฟ ที่ไหน ดี 2010 relatif
60 และมีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวประมาณ 380, 000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 27. 94 จากปี 2546 ส่วนแนวโน้มการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทย คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 67. 12 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4.